“อยากไปให้เร็ว ให้ไปคนเดียว อยากไปให้ไกล ให้ไปด้วยกัน” สุภาษิตคุ้นหูเตือนใจถึงพลังแห่งความสามัคคีและความร่วมมือ ในชีวิตและการทำงาน ทักษะความร่วมมือและการแบ่งปันมีบทบาทสำคัญ ช่วยให้แต่ละบุคคลและกลุ่มก้าวไปสู่ความสำเร็จ แล้วจะฝึกฝนและพัฒนาทักษะนี้ให้เต็มที่ได้อย่างไร? มาหาคำตอบไปพร้อมกันในบทความนี้
“ไม้ซีกเดียว งัดไม้ซุง ไม่อยู่” บรรพบุรุษของเราแต่โบราณกาลได้ตระหนักถึงคุณค่าของความร่วมมือ ทักษะความร่วมมือและการแบ่งปัน ไม่ใช่แค่ความสามารถในการทำงานเป็นทีมเท่านั้น แต่ยังเป็นศิลปะของการสื่อสาร ความเข้าใจ และการมุ่งมั่นไปสู่เป้าหมายร่วมกัน
ทำไมทักษะความร่วมมือและการแบ่งปันจึงสำคัญ?
ในยุคโลกาภิวัตน์ที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว การมีทักษะความร่วมมือและการแบ่งปันจึงมีความสำคัญยิ่งกว่าที่เคย
- เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน: เมื่อบุคคลต่างๆ รู้จักประสานงานกันอย่างลงตัว แบ่งงานกันอย่างเป็นระบบ และช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ประสิทธิภาพในการทำงานก็จะเพิ่มขึ้นอย่างมาก งานวิจัยของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดพบว่า ทีมงานที่มีประสิทธิภาพสามารถทำงานให้เสร็จเร็วกว่าบุคคลที่ทำงานคนเดียวถึง 40%
- ขยายความสัมพันธ์และโอกาส: ความร่วมมือเปิดโอกาสให้มีการแลกเปลี่ยน เรียนรู้ประสบการณ์จากคนรอบข้างเสมอ
- พัฒนาตนเองอย่างรอบด้าน: ทักษะความร่วมมือและการแบ่งปันช่วยให้เราฝึกฝนทักษะการสื่อสาร ความเข้าใจ การแก้ไขความขัดแย้ง และการทำงานเป็นทีม ซึ่งเป็นทักษะที่จำเป็นอย่างยิ่งในชีวิต
จะพัฒนาทักษะความร่วมมือและการแบ่งปันได้อย่างไร?
ไม่ใช่ทุกคนเกิดมาจะเป็นคนเก่งเรื่องความร่วมมือ แต่คุณสามารถฝึกฝนทักษะนี้ได้โดยการฝึกปฏิบัติและพัฒนาตนเอง ต่อไปนี้เป็นเคล็ดลับที่จะช่วยให้คุณประสบความสำเร็จ:
1. รับฟังและเข้าใจ:
“รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง” หากต้องการร่วมมืออย่างมีประสิทธิภาพ ให้เริ่มต้นจากการรับฟังเพื่อทำความเข้าใจเพื่อนร่วมทีมและคู่ค้าของคุณ จงเคารพความคิดเห็นของทุกคนเสมอ แม้ว่าคุณจะไม่เห็นด้วยก็ตาม
2. สื่อสารอย่างเปิดเผยและชัดเจน:
จงเปิดเผยความคิดและความคิดสร้างสรรค์ของตนเองกับทุกคน ใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย หลีกเลี่ยงการพูดจายืดยาวหรือสั้นเกินไป
คุณต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการพัฒนาทักษะการสื่อสารหรือไม่? เข้าร่วม คอร์สทักษะการเจรจาต่อรอง เพื่อรับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญชั้นนำ
3. มีความรับผิดชอบสูง:
แต่ละบุคคลต้องตระหนักถึงบทบาทและหน้าที่ของตนเองในกลุ่ม และพยายามทำงานที่ได้รับมอบหมายให้สำเร็จ จงพร้อมที่จะช่วยเหลือเพื่อนร่วมทีมเมื่อจำเป็น
4. เปิดใจรับฟังข้อเสนอแนะ:
จงรับฟังและยอมรับคำวิพากษ์วิจารณ์และข้อเสนอแนะเชิงสร้างสรรค์จากทุกคน เพื่อพัฒนาตนเองให้ดีขึ้น
การฝึกฝนทักษะความร่วมมือและการแบ่งปันไม่ใช่เรื่องที่จะสำเร็จได้ในชั่วข้ามคืน อย่างไรก็ตาม เพียงแค่มีความอดทนและพยายามอย่างต่อเนื่อง คุณจะเห็นการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวกในชีวิตและการทำงาน
นิทานเรื่องพลังแห่งความร่วมมือ:
เล่ากันว่า ครั้งหนึ่ง กษัตริย์องค์หนึ่งต้องการทราบว่าต้นไม้ชนิดใดแข็งแกร่งที่สุดในโลก พระองค์จึงสั่งให้ขุนนางไปทั่วทุกหนแห่งเพื่อค้นหาและนำกิ่งไม้ที่แข็งแรงที่สุดมาถวาย หลังจากผ่านไปหลายวัน ขุนนางก็นำกิ่งไม้สามกิ่งมาถวายกษัตริย์ ได้แก่ กิ่งโอ๊ก กิ่งหลิว และกิ่งไผ่
จากนั้นกษัตริย์ก็สั่งให้คนหักกิ่งไม้ทั้งสาม แน่นอนว่ากิ่งโอ๊กและกิ่งหลิวถูกหักอย่างง่ายดาย แต่เมื่อถึงคราวของกิ่งไผ่ แม้ว่าจะใช้กำลังทั้งหมดแล้ว แต่ก็ไม่มีใครสามารถหักได้
กษัตริย์ทรงประหลาดใจจึงตรัสถามว่า “ทำไมกิ่งไผ่ถึงได้แข็งแรงเช่นนี้?”
ขุนนางคนหนึ่งทูลว่า “ทูลกระหม่อม กิ่งไผ่ถึงจะดูอ่อนแต่ก็เหนียวและยืดหยุ่นมาก และพวกมันก็มักจะขึ้นเป็นกอเป็นกอ พึ่งพาอาศัยกันและกันเพื่อความมั่นคงท่ามกลางพายุลมแรง”
กษัตริย์ทรงพยักพระพักตร์และทรงเข้าใจว่า พลังไม่ได้อยู่ที่ความแข็งแกร่งภายนอก แต่อยู่ที่ความสามัคคีและการพึ่งพาอาศัยกัน
บทเรียนจากกิ่งไผ่เป็นภาพเปรียบเทียบสำหรับทักษะความร่วมมือและการแบ่งปัน เมื่อเรารู้จักเชื่อมโยงกัน พัฒนาพลังของส่วนรวม เราก็สามารถเอาชนะทุกความท้าทายและก้าวไปสู่ความสำเร็จได้อย่างแน่นอน
คุณต้องการให้ลูกของคุณได้เรียนรู้ทักษะการทำงานเป็นทีมตั้งแต่เนิ่นๆ หรือไม่? โปรดดู คอร์สทักษะการทำงานเป็นทีมสำหรับเด็กปฐมวัย ของเรา!
บทสรุป:
ทักษะความร่วมมือและการแบ่งปันเปรียบเสมือนกาวเหนียวแน่นที่เชื่อมโยงบุคคลต่างๆ เข้าด้วยกัน สร้างพลังอันยิ่งใหญ่เพื่อก้าวไปสู่ความสำเร็จด้วยกัน จงจำไว้เสมอว่า ความสำเร็จของกลุ่มคือความสำเร็จของแต่ละบุคคล และในทางกลับกัน
เริ่มฝึกฝนทักษะนี้ตั้งแต่วันนี้ เพื่อเปิดโอกาสให้ตนเองได้พัฒนาในอนาคต
หากต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับหลักสูตรทักษะอ่อน โปรดติดต่อหมายเลขโทรศัพท์: 0372666666 หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์: 55 ถนนโต๊ะเฮียนแถ่ง, ฮานอย เราพร้อมให้ความช่วยเหลือคุณตลอด 24 ชั่วโมง!